การดูแลสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสถานการณ์น้ำท่วมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์และรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ดังนี้ :
1) #ปิดการทำงานของสถานีชาร์จ : หากมีการแจ้งเตือนน้ำท่วม ควรปิดการทำงานของสถานีชาร์จทั้งหมดทันที เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
2) #ย้ายอุปกรณ์ออกจากพื้นที่เสี่ยง : ถ้าเป็นไปได้ ควรย้ายอุปกรณ์ชาร์จออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนที่เป็นระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เช่น โมดูลไฟ เป็นต้น #ควรปรึกษาแบรนด์และผู้เชี่ยวชาญก่อนดำเนินการนะครับ
3) #ป้องกันน้ำเข้าพื้นที่สถานีชาร์จ หากไม่สามารถย้ายสถานีชาร์จได้ ควรทำการปิดกั้นหรือสร้างแนวกั้นน้ำชั่วคราวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าถึงสถานีชาร์จ
4) #ตรวจสอบและบำรุงรักษาหลังน้ำลด หลังจากน้ำลด ควรทำการตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นในสถานีชาร์จ โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและสายไฟ หากพบความเสียหายหรือร่องรอยของความชื้น ควรหยุดใช้งานทันทีและแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซม
5) #ห้ามใช้สถานีชาร์จที่มีน้ำท่วม : ไม่ควรใช้งานสถานีชาร์จในขณะที่พื้นที่รอบ ๆ ยังมีน้ำขังอยู่ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหายที่ไม่สามารถตรวจพบได้ทันที
6) #วางแผนการป้องกันน้ำท่วมล่วงหน้า หากสถานีชาร์จตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วม ควรมีแผนการป้องกันล่วงหน้า เช่น การสร้างแนวกั้นน้ำถาวรหรือยกระดับสถานีชาร์จให้อยู่ในที่สูง
7) #การห่อหุ้มอย่างมิดชิดเพื่อป้องกันน้ำเข้า : เป็นวิธีที่สามารถช่วยป้องกันน้ำเข้าเครื่องได้ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากการเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการสะสมความชื้นหรือความร้อนภายใน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
#วัสดุที่ควรใช้สำหรับห่อหุ้มเครื่องชาร์จ
#พลาสติกพีวีซี (PVC) หรือ #โพลีเอทิลีน (Polyethylene) หนา : วัสดุเหล่านี้มีความทนทานต่อน้ำและสามารถป้องกันน้ำเข้าได้ดี ควรเลือกพลาสติกที่มีความหนาพอสมควรเพื่อป้องกันการฉีกขาด
#แผ่นยางกันน้ำ (Rubber Sheeting) : ยางมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดีและมีความยืดหยุ่นสูง จึงสามารถใช้ห่อหุ้มเครื่องชาร์จได้ดี แต่ต้องมั่นใจว่าแผ่นยางไม่มีรูรั่วหรือรอยฉีกขาด
#ผ้าใบกันน้ำ (Waterproof Tarpaulin) : ผ้าใบกันน้ำที่มีความหนาและทนทานสามารถใช้ปกคลุมเครื่องชาร์จได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผ้าใบถูกปิดสนิทเพื่อป้องกันน้ำเข้า
#การระบายอากาศ : แม้ว่าจะต้องการป้องกันน้ำเข้า แต่ต้องมีการระบายอากาศที่เพียงพอเพื่อป้องกันการสะสมความชื้นภายใน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าได้
#การปิดผนึก : ควรใช้เทปกันน้ำหรืออุปกรณ์ปิดผนึกที่มีคุณภาพสูง เพื่อปิดรอยต่อระหว่างวัสดุห่อหุ้มให้แน่นหนา
#การตรวจสอบสภาพเครื่องชาร์จ : หลังจากน้ำลด ควรเปิดวัสดุห่อหุ้มและตรวจสอบสภาพเครื่องชาร์จว่ามีความชื้นสะสมหรือความเสียหายใดๆ หรือไม่
หากสามารถทำได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าหรือผู้ผลิตเครื่องชาร์จก่อนทำการห่อหุ้มเครื่อง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำ